วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

น้ำหอมผู้ชายขนาดพกพาคว้า “โตโน่” ภาคิน เป็นพรีเซ็นเตอร์

น้ำหอมเอสเซนส์สร้างปรากฏการณ์ใหม่ใจกลางเมือง คว้า “โตโน่” ภาคิน เป็นพรีเซ็นเตอร์
เปิดตัวน้ำหอมผู้ชายขนาดพกพา Signature For men ชูจุดเด่นติดทนนานตลอดทั้งวัน


 เอสเซนส์ (esxense) คว้า “โตโน่” ภาคิน เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ พร้อมกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ณ ลานด้านหน้าสีลมคอมเพล็กซ์ กับการเปิดตัวน้ำหอมผู้ชาย Signature For men  ความหอมที่คัดสรรและผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัวโดยสูตรน้ำหอมแท้จากประเทศฝรั่งเศส เอกลักษณ์ความหอมในแบบฉบับที่เป็นตัวคุณ ทั้งโดดเด่น มีเสน่ห์ น่าหลงใหล จนสาวๆอยากอยู่ใกล้  ให้กลิ่นหอมยาวนาน ตลอดวัน Exclusive เฉพาะที่ 7 eleven เท่านั้น

นาง กัลยา เจิ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี แอนด์ ที คอลเลคชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำหอมขนาดพกพาแถวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยว่า เอสเซนส์ เป็นผู้นำด้านน้ำหอมแบบพกพาในร้านสะดวกซื้อ สำหรับผิวกาย สำหรับผู้หญิง และสำหรับผู้ชาย ทั้งแบบลูกกลิ้ง 3 ml และแบบสเปรย์ 9 ml โดยวางแผนการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวางจำหน่ายน้ำหอมเอสเซนส์ สำหรับผู้ชาย Signature For men ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

“เป็นอีกก้าวสำคัญ เพื่อขยายตลาดและจับเทรนด์สินค้าผู้ชาย ไปยัง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผู้ชาย ที่ยังไม่เคยใช้น้ำหอม หรือเคยใช้โคโลญจ์ โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ชาย อายุ 18-35 ปี ด้วยการออกคอลเล็กชั่นลิมิเต็ดเอดิชั่น  สำหรับ 7 eleven ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า เนื่องจากน้ำหอมเอสเซนส์ เป็นแบรนด์ที่มีจุดแข็งด้านคุณภาพน้ำหอมแท้ ที่นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส มีความโดดเด่นด้านกลิ่นหอมที่ติดทน หอมนาน แตกต่างจากคู่แข่ง เป็นสูตรพิเศษลับเฉพาะของน้ำหอมเอสเซนส์ โดยสินค้าที่วางจำหน่าย มีนวัตกรรมในการทดลองกลิ่นน้ำหอมได้จากตัวกล่อง ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ความหอมก่อนซื้อ และได้สนุกกับการเลือกน้ำหอมที่ชื่นชอบ”

น้ำหอมเอสเซนส์ ยังเดินหน้าปูพรมกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง แจกสินค้าตัวอย่างขนาดทดลอง จำนวน 100,000 ชิ้น และได้ทำการตลาดโดยผ่านสื่อ จอ LED ในพื้นที่ต่างจังหวัด ทุกภาค และสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ทั่วกทม. เพื่อเข้าถึงลูกค้า คนเมืองและพื้นที่ต่างจังหวัด รวมทั้งสื่อออนไลน์ด้วย โดยกิจกรรมล่าสุด “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ แจกจ่ายความหอมให้กับหนุ่มสาวออฟฟิศบนถนนสีลม ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพ ได้ผลตอบรับอย่างจากล้นหลามจนแน่นไปทั้งถนน


ด้านนางสาวเพชรไพลิน มหาบุตรวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ยังกล่าวถึงรายได้รวมของสินค้าว่า ในปีที่ผ่านมา  “เราเติบโตขึ้น 40% จากช่องทางจำหน่ายหลากหลายช่องทาง เช่น 7 eleven, โมเดิร์นเทรดและรวมไปถึงการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนของการตลาดเรายังถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ทำตลาด โดยการทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ตรงกลุ่ม ทำให้การเติบโตในปีที่ผ่านมา มียอดขาย มากกว่า 3 ล้านขวด ต่อปี ใน 7 eleven และคาดว่าจะผลักดันยอดขายให้มากกว่า 5 ล้าน ขวดต่อปี ให้ได้ตามเป้าหมาย ภายใน 3 ปี นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปี  ทำให้เราเข้าใจกลิ่นที่เหมาะกับคนไทย และเหมาะกับสภาพอากาศร้อน กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมอีกหลากหลายกลิ่น ผลักดันทำให้ยอดขายโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการรุกตลาดส่งออก เอสเซนส์ได้รับการตอบรับจากประเทศในแถบกลุ่มประเทศอาเซียน โดยปีที่ผ่านมา มียอดส่งออกในทิศทางที่ดี”

ทั้งนี้ตลาดน้ำหอมเติบโตจากปีที่ผ่านมา  เติบโตจากผู้บริโภคกลุ่มที่ใช้น้ำหอมมองว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันและมีแนวโน้นจะใช้น้ำหอมมากกว่า 1 แบรนด์ เพื่อให้ความหอมที่แตกต่างกันไปในแต่ละโอกาส อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงยึดมั่น ในการพัฒนาสิ่งค้าอย่างต่อเนื่อง และคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค่า และคุณภาพน้ำหอมเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเป็นหัวใจในการดำเนินงานของ บริษัทฯ และราคาที่เหมาะสมสู่ลูกค้า

“เราตั้งเป้าหมายในการเป็นแบรนด์น้ำหอมพกพาอันดับหนึ่ง สำหรับพกพาไว้ในกระเป๋าใช้ระหว่างวัน ด้วยคุณภาพเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์” นางสาวเพชรไพลิน กล่าวทิ้งท้าย

พบกับเอสเซนส์น้ำหอม Signature For men ในรูปแบบ สเปรย์ขวดสีดำ ให้คุณพกพาความหอมไปได้ในทุกที่ ทุกเวลา ยาวนาน 60 วัน 
หอมตลอด 24 ชม. ได้แล้ว วันนี้ที่ 7 eleven ทุกสาขา ในราคา 79 บาท

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานมอบรางวัล PM Award 2018 ชูแนวคิด “Leading The Way”

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานมอบรางวัล PM Award 2018
ชูแนวคิด “Leading The Way”
กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (Prime Minister’s Export Award : PM Award 2018) รับรองคุณภาพของผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สากล ในปีนี้ได้ใช้แนวคิด ‘Leading The Way’ สะท้อนถึงเส้นทางเดินแห่งความสำเร็จของนักธุรกิจไทย ซึ่งจัดโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
  ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศบนเวทีโลก ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมภาคการค้าระหว่างประเทศของไทยอย่างดีเสมอมารัฐบาล จึงได้มีนโยบายหลักที่มุ่งเน้นให้เกิดการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศซึ่งบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกทั้งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ผลักดันให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยการเน้นใช้นวัตกรรมในการออกแบบและผลิต เพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ทั้งยังเน้นสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการไทย โดยคงเอกลักษณ์แบบไทยอันโดดเด่นที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่นใด เมื่อภาคการส่งออกและภาคธุรกิจโดยรวมเข้มแข็งก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคส่วนอื่นภายใต้พลังประชารัฐทำให้เศรษฐกิจฐานรากและภาคประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นเป็นลำดับ
  นางสาว ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “กระทรวงพาณิชย์มีภารกิจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้การช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทั้งภาคการส่งออกและผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง  อาทิ จัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy)เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถประกอบธุรกิจและทำการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย ให้ความรู้ในเรื่องของการทำการค้าออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ Kongdeetourthai.com (ของดีทั่วไทย) และ thaitrade.com และยังร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรอิเล็คทรอนิกส์ชั้นนำ  อาทิ  Alibaba, Tmall, Amazon, และ eBay เพื่อสร้างการรวมกลุ่มและขยายช่องทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทยในตลาดต่างประเทศ  ให้การสนับสนุนภาคบริการให้เติบโตมากขึ้น เพื่อให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน และการให้บริการของอาเซียน และเพิ่มการสร้างรายได้จากภาคบริการให้มากขึ้น ตลอดจน กระจายรายได้ไปสู่ชุมชน จึงมีการสนับสนุนการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจบริการ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อน Creative and Cultural Economyโดยการดึงศักยภาพของท้องถิ่น ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีมาพัฒนาและต่อยอดเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ ผ่านการสร้างเรื่องราวซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทย ที่พยายามสร้างสรรค์และยกระดับศักยภาพของตน


 ความสำเร็จของผู้ประกอบการไทย มูลค่าการส่งออกจากปี 2559 ถึงปัจจุบัน มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกของปี 2559 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 0.5 การส่งออกของปี 2560 มีมูลค่า 236,635 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.86 และมูลค่าการส่งออกใน 6 เดือนแรก ในปี 2561 (ม.ค. - มิ.ย) มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 125,812 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.95 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ของทั้งปี 2561 

  รางวัล PM Award ถือเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจของประเทศและเป็นการประกาศเกียรติคุณให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางถึงความสำเร็จและความทุ่มเทของผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาตนเอง พัฒนาสินค้า และบริการให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ซึ่งการพิจารณาคัดเลือกบริษัทเข้ารับรางวัลในแต่ละปีจะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบเป็นระบบและโปร่งใส โดยมีคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจส่งออกที่ได้รับรางวัลนี้มีคุณสมบัติ ที่เพียบพร้อมอย่างแท้จริง

 โดยรางวัลทั้ง 7 ประเภทที่มีการมอบภายในงานในปีนี้ มีดังนี้
  1. รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter)
  2. รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Innovation)
  3. รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand)
  4. รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design)
  5. รางวัลสินค้าธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award)
  6. รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP)
  7. รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)

          ซึ่งในปีนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจได้รับรางวัลใน 7 ประเภท รวมทั้งสิ้น 35  รางวัล  32 บริษัท รางวัลนี้ ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ สูงสุดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย ทั้งสินค้าและบริการประเภทต่างๆซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับรางวัล ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ ในระดับสากล รวมถึงทำให้ผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นต่อผู้ส่งออกของไทยที่ได้รับรางวัลอีกด้วย ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการ ตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปี 2561 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 27 มีผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยที่ได้รับรางวัลแล้วกว่า 600 ราย 

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

อิ่มวิเศษทาวเวอร์ 420 ล้าน บนเนื้ที่ 4 ไร่

อิ่มวิเศษทาวเวอร์ 420 ล้าน บนเนื้อที่ 4 ไร่ อาณาจักรใหม่ 
"สตาร์เวลล์" ย่านธุรกิจสมบูรณ์เเบบเมืองโคราช
เปิดยิ่งใหญ่อิ่มวิเศษทาวเวอร์ 420 ล้าน อาณาจักรใหม่ สตาร์เวลล์ ย่านธุรกิจสมบูรณ์แบบเมืองโคราช  นครราชสีมาได้เวลามหาฤกษ์เปิดยิ่งใหญ่ อิ่มวิเศษทาวเวอร์ 420 ล้าน อาณาจักรใหม่แห่งโลกธุรกิจของสตาร์เวลล์ บนทำเลทองเมืองโคราช 40 ไร่ ชูสถาปัตยกรรมโดดเด่นมีเอกลักษณ์โอ่โถงสวยหรูหราทันสมัยผสานความเป็นธรรมชาติความเป็นธรรมชาติและใส่ใจสุขภาพ เมื่อวันที่นี้ 14 ส.ค.ที่อาคารอิ่มวิเศษ ถ.สุรนารายณ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ท่านหญิง(หม่อมเจ้า)ประภาพันธุ์  ภาณุพันธุ์ กรโกสีอากาจ 
เป็นองค์ประธานพิธีเปิดอาคารอิ่มวิเศษ หรือ อิ่มวิเศษทาวเวอร์ ของกลุ่มบริษัทในเครือสตาร์เวลล์ จำกัด อย่างเป็นทางการ
โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. บุญมา อิ่มวิเศษ
ประธานกรรมการบริษัทในเครือสตาร์เวลล์ จำกัด
พร้อมด้วยผู้บริหารพนักงานให้การต้อนรับภายในงานมีพาร์ทเนอร์ 
และเซเลบริตี้เมืองไทยเข้าร่วมพิธีเปิด

สัมผัสความอลังการของอาคารอิ่มวิเศษทาวเวอร์พร้อมชมการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังระดับประเทศ มอสปฏิภาณ ปฐวีกานต์ที่มาร่วมสร้างสีสันและเติมเต็มความสุขกันอย่างเต็มที่ 
   ผศ. ดร. บุญมา อิ่มวิเศษ ประธานกรรมการบริษัทในเครือสตาร์เวลล์ จำกัด เปิดเผยว่าอิ่มวิเศษทาวเวอร์เป็นอาคารที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษ มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมโดดเด่นแตกต่างอย่างเหนือระดับภายใต้แนวคิด GREEN BUILDING ซึ่งมีการจัดสรรพื้นที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติกับความสวยหรูดูทันสมัยมีโดมหน้าอาคารเป็นสัญลักษณ์เปิดต้อนรับแบบOpen- public space ภายในอาคารโอโถง โล่ง โปร่งสบายหลังคาถูกออกแบบ Sky light เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าถึงทำให้"ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"



วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Taiwan Expo2018 ครั้งแรกในเมืองไทย 30 สิงหาคมนี้

Taiwan Expo2018 ครั้งแรกในเมืองไทย 30 สิงหาคมนี้
กรมการค้าต่างประเทศกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันร่วมกับสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวันและสมาคมการค้าไทยไต้หวันพร้อมด้วยสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการจัดงานไต้หวันเอ็กซ์โป 2018 ครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิดชูเทคโนโลยีเพื่อให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นพร้อมแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรมและกระตุ้นความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยกับไต้หวันงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคมถึง 1 กันยายน 2561 ณอีเวนท์ฮอลล์เก้า 19 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา